เตือนเกษตรกรผู้ปลูกพืช ตระกูล แตง อาทิ แตงกวา แตงโม เมล่อน แคนตาลูป ฟักทอง มะระจีน และบวบ ให้เกษตรกรหมั่นสังเกตการเข้าทำลายของ แมลงวันหนอนชอนใบ และ ด้วงเต่าแตงแดง ที่สามารถพบได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของพืชตระกูล แตง

เกษตรกรผู้ปลูกพืชตระกูล แตง อาทิ แตงกวา แตงโม เมล่อน แคนตาลูป ฟักทอง มะระจีน และบวบ ให้หมั่นสังเกตการ ทำลายของแมลงวันหนอนชอนใบ และ ด้วงเต่าแตงแดง ที่สามารถพบได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของ พืชตระกูลแตง สำหรับแมลงวันหนอนชอนใบ มักพบตัวหนอนชอนไชอยู่ในใบ ทำให้เกิดรอยเส้นสีขาวคดเคี้ยวไปมา เมื่อนำใบพืชมาส่องดูจะพบหนอนตัวเล็กสีเหลืองอ่อนโปร่งใสอยู่ภายในเนื้อเยื่อใบพืช กรณีระบาดรุนแรง จะทำให้ใบเสียหายและร่วงหล่น ซึ่งอาจมีผลต่อผลผลิตได้

หากพบเริ่มระบาด ให้เกษตรกรเก็บเศษใบพืช ที่ถูกทำลายนำไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก จะสามารถช่วยลดการแพร่ระบาดได้ เนื่องจากหนอนชอนใบและดักแด้หนอนชอนใบที่อาศัยอยู่ตามเศษใบพืชบนพื้นดินจะถูกทำลายไปด้วย จากนั้นให้เกษตรกรพ่นด้วยสารฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพเบตา-ไซฟลูทริน 2.5% อีซี อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารฟิโพรนิล 5% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารไดโนทีฟูแรน 10% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
นอกจากนี้ เกษตรกรควรเฝ้าระวังด้วงเต่าแตงแดง

จะพบตัวด้วงเข้าทำลายแทะกัดกินใบยอด หากระบาดรุนแรง อาจทำให้ต้นพืชชะงักการทอดยอดได้ หากพบการเข้าทำลายของด้วงเต่าแตงแดง เกษตรกรควรหมั่นสำรวจตรวจดูสวนในเวลาเช้าที่แดดยังไม่จัด โดยให้ใช้วิธีกลในการจับตัวด้วงเต่าแตงแดงมาทำลายด้วยมือ จะสามารถช่วยลดการระบาดลงได้มาก ขณะเดียวกันภายหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เกษตรกรถอนทำลายต้นทิ้ง เก็บเศษซากพืชส่วนที่หลงเหลือ และหมั่นกำจัดวัชพืชในแปลงไปเผาทำลายนอกแปลงปลูกทันที เพื่อทำลายแหล่งอาศัยของด้วงเต่าแตงแดงต่อไป

สำหรับการใช้สารฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดด้วงเต่าแตงแดง ให้เกษตรกรพ่นด้วยสารอิมิดาโคลพริด 10% เอสแอล อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารฟิโพรนิล 5% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารคาร์บาริล 85% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร

ขอบคุณที่มา : facebook เพจ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร