“เห็ดโคน” เป็นเห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ พบในพื้นที่ป่าทั่วไป จะออกผลผลิตหลังฝนตกชุกติดต่อกันหลายวัน สลับกับมีแสงแดดในอุณหภูมิที่เหมาะสม เมื่อถึงช่วงที่เห็ดโคนออก ชาวบ้านมักจะนิยมเข้าป่าหาเห็ดโคนกัน เพราะมีราคาแพง เป็นเห็ดป่ามีรสชาติอร่อย นำมาปรุงอาหาร ต้มยำ หรือผัดน้ำมันหอย อร่อยมาก

ว่ากันว่าดอกตูมๆ กิโลกรัมละ 500-600 บาท ส่วนดอกที่บานแล้วกิโลกรัมละ 250-300 บาท ที่แพงเพราะปีหนึ่งได้กินเพียงครั้งเดียว และที่ผ่านมาก็ยังไม่มีใครที่สามารถนำเห็ดนี้มาเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ได้เลย

 

แต่วันนี้เห็ดโคนถูกนำเชื้อมาเพาะเชื้อได้แล้ว

 

รณรงค์ มงคลการ เป็นผู้นำเชื้อเห็ดโคนมาเพาะเลี้ยงเป็นเห็ดโคนคอนโดสําเร็จแห่งแรก ภายในโรงเรียนวัดท่ามะขาม (ท่ามะขามประชาอุทิศ) อ.โพธาราม จ.ราชบุรี และได้จดลิขสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กําลังขยายผลให้ความรู้ออกสู่ชุมชนสร้างรายได้กับนักเรียน

โดยหลังทราบข่าว จิตรลดา เนียมรักษา นายกเทศบาลตำบลดอนทราย ได้นำกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมทั้งผู้นำชุมชน ประชาชน ผู้ปกครองนักเรียน เข้ามาศึกษาดูงานโครงการเพาะเห็ดโคนคอนโดจากวัสดุจากธรรมชาติจนสำเร็จ จึงเตรียมนำโครงการดังกล่าวไปต่อยอดสร้างอาชีพเสริมให้แก่ชุมชนได้มีรายได้อีกทางหนึ่ง

ภายในโรงเรียนวันนี้ ธัญญชล จันทร์มโน ครู คศ. 2 ชำนาญการ ผู้ร่วมคิดค้นการเพาะเห็ดโคน เป็นผู้ให้ความรู้ และนำนักเรียนมาช่วยกันฉีกเชื้อเห็ดโคน บริเวณพื้นที่อาคารไม้ลักษณะปลูกสร้าง 2 ชั้น ภายในโรงเรียน

สำหรับวัสดุอุปกรณ์ในการเพาะเห็ดโคนคอนโด จะมีถังต้ม เตา ใช้แบบประหยัดโดยใช้ก้อนหินใหญ่ หรือ อิฐบล็อกก็ได้ มีหัวเชื้อเห็ดโคนคอนโด ฟาง อาหารเสริม หัวเชื้อต้มฟาง และฮอร์โมนเห็ดโคนคอนโด

 

 

วธัญญชลเปิดเผยว่า สำหรับสูตรการเพาะเห็ดโคนคอนโดมาจากนายรณรงค์ มงคลการ ซึ่งเป็นน้องชาย ได้เป็นผู้คิดค้นสูตรตรงนี้มาเป็นเวลา 1 ปี มีเอกลักษณ์เฉพาะสูตรตรงที่ว่า ใครที่เคยรับประทานเห็ดโคนหรือเห็ดปลวกจากทั่วไป จะรู้เลยว่าเห็ดโคนคอนโดของที่นี่รสชาติไม่ต่างจากธรรมชาติ ถือเป็นการสร้างเศรษฐกิจพอเพียงมาสู่ครอบครัวของเรา และยังมีโอกาสได้เดินตามรอยพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 สำหรับส่วนผสมของการเพาะเห็ดโคน ขณะนี้ได้มีการจดเป็นลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว เป็นสูตรเฉพาะที่พร้อมเสิร์ฟจากวัสดุธรรมชาติที่กินเข้าไปแล้วไม่มีอันตรายต่อร่างกาย

หลังจากคิดค้นสูตรแล้วโรงเรียนจึงนำมาต่อยอดทำโครงการ “CSR IN SCHOOL” ที่ได้รับรางวัลระดับ Beginners จากบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด และได้รับรางวัลระดับ Advance ในโครงการน้ำหมักชีวภาพ ซึ่งการทำน้ำหมักชีวภาพเป็นรอยต่อหนึ่งที่จะทำในเรื่องการเพาะเห็ดโคนคอนโด ซึ่งเป็นรอยเชื่อมต่อกันของการทำ “CSR IN SCHOOL” ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนต่อโรงเรียน ตามโครงการ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ตามแนวนโยบายรัฐบาล และโรงเรียนได้ยกระดับเข้าร่วมโครงการ CSR in School ระดับ Smart CSR ของบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด ด้วย

 

 

สำหรับโรงเรียนวัดท่ามะขาม ขณะนี้ได้เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้การเพาะเห็ดโคนคอนโดที่สามารถให้ความรู้กับชุมชน หรือหน่วยงานภาครัฐ หรือนิสิต นักศึกษาที่สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ได้ เป็นศูนย์ความรู้ กับกลุ่มที่อยากมีอาชีพเสริมให้กับตัวเอง สามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว โดยมีรายได้เดือนละประมาณ 15,000-30,000 บาท แล้วแต่กำลังของแต่ละชุมชนนั้น ซึ่งตอนนี้มีผู้สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้แล้วหลายจังหวัด ส่วนคนที่สนใจอยากซื้อเชื้อเห็ดโคนไปเพาะเอง สามารถติดต่อได้ที่โรงเรียน มีไว้จำหน่ายแก่ผู้สนใจที่อยากมีรายได้เสริมอาชีพอีกทางหนึ่ง

ถนัดกิจ บรรพตสุวรรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดท่ามะขาม เปิดเผยว่า เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคม จึงได้ทำศูนย์เรียนรู้การเพาะเห็ดโคนขึ้นมาเมื่อประมาณเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อจะให้ชุมชนได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้และนำไปใช้สร้างรายได้เสริม เป็นการต่อยอดของโครงการ “CSR IN SCHOOL” ตามที่โรงเรียนได้คิดไว้ โดยเด็กๆ กลุ่มหนึ่งที่ได้ร่วมกันเพาะเห็ดโคนคอนโด จะมีรายได้ส่วนหนึ่งเก็บไว้หลังจากที่ได้นำเห็ดโคนออกจำหน่ายแก่ลูกค้าแล้ว

“ถือเป็นการเปิดประเด็นใหม่ให้แก่ผู้ปกครองในพื้นที่ได้เข้ามาพบเห็น โดยเฉพาะผู้นำชุมชนได้เข้ามาร่วมศึกษาดูงานการเพาะเห็ดโคนคอนโด นอกจากนี้ โรงเรียนยังได้ทำหนังสือแจ้งผู้ปกครองเป็นรายบุคคลถึงโครงการดังกล่าว คาดว่าในอนาคตทางชุมชนคงจะนำสิ่งดีๆ จากที่นี่นำไปใช้เป็นอาชีพสร้างรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี ขณะนี้ผลผลิตเห็ดโคนไม่เพียงพอต่อการจำหน่ายที่มีการสั่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงถือเป็นอีกหนึ่งโครงการตามรอยแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่ผู้ที่สนใจนำความรู้ไปประกอบอาชีพเสริมรายได้อีกทางหนึ่ง” ถนัดกิจทิ้งท้าย