หน้าแล้งนี้ถือว่าแล้งจัดกันเลยทีเดียว น้ำก็ไม่พอใช้ในด้าเกษตรกรรม วันนี้จึงขอนำเสนอไอเดีบภูมิปัญญาชาวบ้านที่ได้คิดค้นเครื่องสูบน้ำ ที่ไม่ใช่ทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน เพื่อลดต้นทุนของเกษตรกรค่ะโดยเครื่องนี้สามารถสูบน้ำใช้ได้ทั้งวันทั้งคืนแบบไม่หยุดพักได้อีกด้วย เครื่องนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ตะบันน้ำ(Hydraulic Ram)

หลักการของเครื่องตะบันน้ำ(Hydraulic Ram)

สูบน้ำได้โดยใช้พลังของน้ำเป็นตัวขับเคลื่อนในการสูบน้ำไปใช้ โดยในต่างประเทศได้ใช้หลักการนี้มาหลายร้อยปีแล้ว แต่ไม่ค่อยแพร่หลายเพราะมีขั้นตอนการติดตั้งอปกรณ์ค่อนข้างยุ่งยาก และประสิทธิภาพยังต่ำอยู่เมื่อเทียบกับเครื่องสูบน้ำทั่วไป

อ.ดร.จิระกานต์ ศิริวิชไมตรี อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมชลประทาน แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้ทำการพัฒนาเครื่องตะบันน้ำ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยใช้หลักการที่เรียกว่า ปรากฏการณ์Water Hammer นั่นคือเมื่อน้ำไหลจากแหล่งน้ำธรรมชาติเข้าสู่ท่อรับน้ำผ่านวาล์วน้ำทำให้มีการเปิดปิดของวาล์วเป็นแรงกระตุ้นให้เครื่องตะบันน้ำทำงาน ตามหลักการดังรูป

การติดตั้งเครื่องตะบันน้ำ

ต้องทำการติดตั้งให้อยู่ต่ำกว่าผิวน้ำอย่างน้อย 1.5 เมตร ท่อส่งน้ำต้องมีความยาวอย่างน้อย15 เมตร แรงดันจึงเพียงพอทำให้เครื่องทำงานได้สมบูรณ์ จากการทำสอบเมื่อสูบน้ำขึ้นไปที่ความสูง 6 เมตร จะได้น้ำประมาณ 6,800 ลิตร/วัน ซึ่งเพียงพอใช้ประมาณ 3 หลังคาเรือน (ยิ่งสูงปริมาณน้ำที่ได้จะน้อยลง)พื้นที่ๆเหมาะสมในการติดตั้งเครื่องตะบันน้ำคือ บริเวณลำธารหรือเชิงเขาที่มีแหล่งน้ำเช่นน้ำตก ทำนบกันน้ำ หรือฝาย เป็นต้น สามารถนำไปติดตั้งและใช้งานได้ไม่ยากเลยค่ะ

โดยเครื่องตะบันน้ำของไทยนั้นมีราคาต่ำกว่าเครื่องตะบันน้ำที่ซื้อขายกันต่างประเทศมากทีเดียวและยังทีประสิทธิภาพสูงมากกว่าด้วย โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 7,000-8,000 บาทเท่านั้นเองราคาเครื่องเมื่อเทียบกับราคาค่าไฟค่านเชื้อเพลิงต่างๆถือว่าถูกมากทีเดียวค่ะ เป็นภูมิปัญญาดีๆที่ไม่แพ้ใครเลยทีเดียว

ขอบคุณที่มา  : อาจารย์ ดร.อ.ดร.จิระกานต์ ศิริวิชไมตรี อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมชลประทาน แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์