ผัก Organic คืออะไร ?

      ผักที่เพาะด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์แบบธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีในการเพาะปลูกทุกขั้นตอน ไร้สารเคมี การปรุงแต่งด้วยสารสังเคราะห์ ในทุกๆขั้นตอน 

ผักปลอดสารพิษ

ผักออร์แกนิคถือเป็นผักปลอดสารพิษ แต่ผักปลอดสารพิษไม่จำเป็นต้องเป็นออร์แกนิคเสมอไป

ผักปลอดสารพิษ คือพืชผักที่ไม่ใช้สารพิษกำจัดศัตรูพืชในการเพาะปลูก จึงมั่นใจได้ว่าไม่มียาฆ่าแมลงเจือปน แต่ก็ใช่ว่าผักปลอดสารพิษจะปราศจากสารเคมีอย่างหมดจด เพราะยังมีการใช้ปุ๋ยเคมีเร่งการโตในการเพาะปลูกได้ อีกทั้งพืชที่ปลูกอาจผ่านการตัดต่อพันธุกรรมมาด้วยเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้น ผักปลอดสารพิษก็ยังถือว่าปลอดภัยพอสมควร ถ้าเทียบกับพืชผักที่มีสารกำจัดศัตรูพืชปะปน

ผักออร์แกนิค เป็นพืชผักที่เพาะปลูกด้วยวิธีธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์! คำว่า ออร์แกนิค (organic) แปลว่า อินทรีย์ นั่นหมายความว่า พืชผักจะต้องงดเว้นการใช้สารเคมีสังเคราะห์ในทุกขั้นตอนของการผลิต โดยพืชผักผลไม้ออร์แกนิค จะเพาะปลูกตามฤดูกาลที่เหมาะสมของพืชแต่ละชนิด เพื่อให้พืชเจริญงอกงามได้ดีตามธรรมชาติ ใช้สมุนไพรแทนสารพิษกำจัดศัตรูพืช และใช้ปุ๋ยหมักอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมี นอกจากนี้ พืชผักออร์แกนิคยังงดเว้นการใช้เมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม หรือ GMO จึงมั่นใจได้ว่าพืชผักที่เราทานนั้น เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมตามธรรมชาติ และไม่เพียงขั้นตอนการเพาะปลูกเท่านั้น แต่ในการขนส่งและจัดจำหน่าย ผักออร์แกนิคจะต้องคำนึงถึงความสดใหม่และปราศจากสารเคมีอยู่เสมอ ด้วยขั้นตอนที่พิถีพิถันและยุ่งยาก บวกกับต้นทุนการผลิตที่มากกว่าการปลูกผักผลไม้ทั่วไป เป็นเหตุผลทำให้ราคาในท้องตลาดของพืชผักออร์แกนิคสูงกว่าพืชผักธรรมดา

วิธีการปลูกผักออร์แกนิค

     การจะปลูกผัก Organic นั้น ตอนเตรียมแปลง ก็ต้องทำการปลูกสมุนไพรเพื่อไล่แมลงเสียก่อนจะลงพืชหลัก ทั้งทางน้ำ , อากาศ , ดิน โดยสมุนไพรที่สามารถกันแมลงรอบนอกได้ เช่น ชะอม , ตะไคร้หอม , ข่า ให้ปลูกห่างกัน 2 เมตรรอบพื้นที่ ส่วนพืชกันแมลงในระดับต่ำ ก็ต้องปลูกสมุนไพรเตี้ยลงมา เช่น กระเพรา , ตะไคร้หอม , พริก ให้ปลูกห่างกัน 1 เมตร สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องลงตะไคร้หอมทุก 3 เมตร ซึ่งพืชผักพวกนี้ปลูกได้ง่าย และเป็นที่ต้องการของตลาดที่สำคัญคือ หาง่ายในประเทศไทย

     หลังจากลงสมุนไพรเพื่อกันแมลงแล้ว ก็ถึงคราวยกแปลงเพื่อปลูกพืชผัก ระหว่างยกแปลงก็ให้ปลูกกระเพรา , โหระพา , พริก เพื่อป้องกันแมลง ข้อแนะนำคือ เมล็ดพันธุ์พืชส่วนใหญ่ผ่านการคลุกสารเคมีมา เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องนำเอาเมล็ดพันธุ์ผักมาล้างเสียก่อน ด้วยการนำน้ำความร้อน 50-55 องศาเซลเซียสขึ้นไป ให้นำเมล็ดพันธุ์แช่ลงไป นาน 30 นาที แล้วจึงนำมาคลุกกับกากสะเดา แล้วค่อยนำไปลงดิน ก่อนรดน้ำทุกวันควรขยี้ใบตะไคร้หอม ตามด้วยใช้ไม้เล็กๆ ตีใบกระเพรา , โหระพา , ข่า เพื่อให้กลิ่นเหล่านี้ช่วยแมลง

     เมื่อเก็บเกี่ยวพืชแรกชุดไปแล้ว ไม่ควรปลูกพืชชนิดเดียวกันซ้ำอีกครั้ง เช่น แปลงที่ 1 ปลูกผักกาดเขียว หลังเก็บควรปลูกสลับชนิด เช่น ผักบุ้งจีน , ผักกาดหัวจะได้ผลผลิตดี

     การปลูกพืชอินทรีย์ จำเป็นจะต้องปลูกสมุนไพรก่อน และต้องทำให้มันช้ำเพื่อส่งกลิ่น โดยการปลูกแนวตั้งควรเป็นพืชที่ขึ้นค้าง เช่น ถั่วฝักยาว , มะระจีน เป็นต้น ส่วนการปลูกแนวนอน สามารถเลือกผักชนิดต่างๆได้ เช่น คะน้า , กะหล่ำปลี , ปวยเล้ง , ตั้งโอ๋ เป็นต้น และการปลูกสมุนไพร เพื่อใช้ในการไล่แมลง

ข้อดีของการเลือกทานผักผลไม้ออร์แกนิค

  • ปลอดสารเคมี 100% จึงแน่ใจได้ว่าการทานผักผลไม้จะไม่มีสารพิษตกค้างในร่างกายเรา และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคที่อาจเกิดจากสารเคมีสะสม เช่น โรคมะเร็ง
  • พืชผักที่ทานไม่มีการตัดแต่งพันธุกรรม (GMO) แม้งานวิจัยในปัจจุบันจะยืนยันว่าการทานพืช GMO ไม่พบผลเสียต่อสุขภาพ แต่หลายๆ คนก็ยังคงหวาดกลัว และทุกวันนี้ก็มีกลุ่มผู้ต่อต้านพืช GMO อยู่
  • ผักผลไม้มีรสชาติดี เพราะเป็นการเพาะปลูกตามฤดูกาล และมีความสดใหม่อยู่เสมอ
  • เป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่มีการใช้สารเคมีทั้งในดินและที่ระเหยในอากาศ จึงเป็นการช่วยรักษาระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติ

จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นผักผลไม้ออร์แกนิค ผักผลไม้ออร์แกนิคที่วางขายตามท้องตลาด มักถูกบรรจุในถุงพลาสติก โดยบนบรรจุภัณฑ์จะมีเครื่องหมาย Organic Thailand หรือ มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.) IFOAM ACCREDITED

 

แหล่งที่มา

ขอขอบคุณ : honestdocs , fsepmichigan