ในปัจจุบันคนหันมาสนใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น แต่ถ้าจะให้ไปซื้อผักกิน ก็กลัวว่าจะมีสารพิษ จะปลูกกินเอง บางคนก็อยู่ห้องเช่า บางคนก็อยู่คอนโด หรือหมู่บ้านในเมือง ซึ่งไม่มีพื้นที่มากนัก แต่สำหรับใครที่มีพื้นที่มากพอที่จะปลูกก็น่าสนใจ แต่หากใครที่มีพื้นที่จำกัด แต่อยากลองปลูก เรามีผักที่ปลูกง่าย ใช้ระยะเวลาในการเติบโตไม่นาน และวิธีการปลูกไม่ยุ่งยาก จะปลูกกินก็ได้ ปลูกขายก็ดี มาแนะนำค่ะ

 

 

วิธีปลูกถั่วงอก

  1. ถังน้ำ หรือภาชนะอื่น ๆ , กระสอบป่านตัดให้เท่ากับภาชนะ, ตะแกรงพลาสติกตาถี่, กระดาษทิชชู, เมล็ดถั่วเขียว
  2. นำถัวเขียวมาล้างทำความสะอาดแล้วแช่ถั่วเขียวในน้ำอุ่นค้างคืนไว้ 1 คืน 2. วางกระสอบป่าน แผ่นฟองน้ำ หรือผ้าขนหนูที่ตัดไว้ลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้
  3. โรยถั่วเขียวที่แช่ไว้ลงไปบนตะแกรง ให้เมล็ดถั่วเขียวที่แช่ไว้ลงไปบนตะแกรง ให้เมล็ดถั่วช้อนกันประมาณ 2-3 ชั้น 4
  4. คุมด้วยกระดาษทิชชูหรือผ้าเปียก ๆ
  5. รดน้ำทุกวันวันละ 3-4 เวลา หากไม่อยู่บ้านให้รดตอนเช้ากับตอนกลับบ้าน
  6. หาที่วางในที่ที่น้ำระบายได้ไม่เลอะเทอะ
  7. หลังจากนั้นประมาณ 3-7 ถั่วเขียวก็จะค่อย ๆ งอกออกมาเป็นถั่วงอกแล้วแหละ

ถ้าถั่วงอกได้น้ำสม่ำเสมอ รสชาติจะหวาน กรอบ วิธีที่จะทำให้ถั่วงอกอวบอ้วนคือ ให้หาอะไรหนัก ๆ มาทับชั้นบนสุดไว้ ถั่วงอกจะไม่ยืดยาวเพราะมีอะไรกดทับเขาไว้ ทำให้ถั่วงอกค่อย ๆ งอกออกมาอย่างสวยงาม

 

 

วิธีปลูกผักชี

  1. เตรียมดินสำหรับปลูก ด้วยการตากดินสัก 1 สัปดาห์ แล้วพรวนดินให้แตกเป็นก้อนเล็ก ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยสดคลุกเคล้าเข้าไป
  2. บดเมล็ดพันธุ์ผักชีที่ซื้อมาให้แตกออกเป็น 2 ซีก แล้วนำเมล็ดไปแช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง
  3. นำเมล็ดพันธุ์ผักชีที่แช่น้ำแล้วไปผึ่งลม ผสมกับทรายหรือขี้เถ้าเล็กน้อย
  4. เมื่อเห็นเมล็ดเริ่มงอก ให้นำไปใส่กระถางปลูกที่เตรียมดินเอาไว้แล้ว จากนั้นคลุมด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
  5. รอเก็บเกี่ยวมารับประทานในอีก 30-45 วัน โดยเวลาถอนให้รดน้ำจนดินชุ่มก่อน และควรถอนทั้งราก

 

วิธีปลูกผักบุ้งจีน

  1. นำเมล็ดผักบุ้งแช่น้ำไว้ 1 คืน จากนั้นก็ห่อด้วยผ้าต่ออีก 2 คืน ให้ผ้าชื้นตลอดเวลาเพื่อเป็นการเร่งให้งอกเร็วขึ้น
  2. จากนั้นรากขาวๆ ของผักบุ้งก็จะงอกออกมา
  3. เมล็ดผักบุ้งงอกรากแล้วก็นำลงไปปลูกในดินหลุมละเมล็ด โดยเอานิ้วกดลงไปในดินที่เตรียมไว้
  4. ปิดปากหลุมแล้วรดน้ำ ถ้ามีฟางก็ให้นำฟางมามาคลุมหน้าดินสักหน่อย กันหน้าดินแห้ง
  5. จากนั้นต้นผักบุ้งก็จะงอกออกมาให้ยลโฉม จากนั้นก็รอตัดมารับประทานได้เลย

 

วิธีปลูกเห็ดนางฟ้า

การทำก้อนเชื้อจากฟางสับ  ฟางที่ใช้เพาะควรเป็นฟางที่แห้งสนิท ไม่มีเชื้อราปะปนหรือมีกลิ่นเหม็น สูตรอาหารที่ใช้คือ ใช้ฟางสับยาว 2-3 นิ้ว 100 กก. ปุ๋ยนา (สูตร 16-20-0) 1 กก. ดีเกลือ 0.2 กก. ปูนขาว 1 กก. ความชื้น 70-75 % โดยมี ขั้นตอนการทำดังนี้

  1. นำฟางสับไปแช่น้ำหรือรดน้ำให้ทั่ว แล้วผสมปุ๋ยและดีเกลือลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วทำเป็นกองสูงคลุมด้วย พลาสติก หมักทิ้งไว้ 3 วัน ในวันที่ 3,4,5 และ6 ให้กลับกองฟางทุกวัน
  2. ในวันที 7 ให้ใส่ปูนขาวเพื่อปรับความเป็นกรด-ด่าง และไล่ก๊าซแอมโมเนียที่เกิดขึ้นระหว่างการหมักฟางคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้ว ต่ออีก 1-2 วัน
  3. บรรจุใส่ถุงพลาสติกที่ใช้เพาะเห็ด ซึ่งควรบรรจุให้หมดภายในวันเดียว ถุงก้อนเชื้อควรมีขนาด 8 ขีด ถึง 1 กก. เมื่ออัดก้อนเชื้อแน่นดีแล้ว ใส่คอขวดพลาสติก อุดด้วยสำลีและปิดด้วยกระดาษ แล้วรัดยางให้แน่น
  4. นำก้อนเชื้อที่ได้ไปนึ่งฆ่าเชื้อทันที ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม. นับจากน้ำเดือด แล้วทิ้งไว้ให้เย็น
  5. นำหัวเชื้อเห็ดที่เลี้ยงไว้ในเมล็ดข้าวฟ่าง ใช้ประมาณ 10-20 เมล็ดต่อก้อนเขี่ยลงในก้อนเชื้อที่เย็นดีแล้ว แล้วรีบปิดปากถุงด้วยสำลีและกระดาษทันที สถานที่ที่ใช้ถ่ายหัวเชื้อเห็ดลงก้อนเชื้อควรสะอาดลมสงบ วัสดุที่ใช้เขี่ยหัวเชื้อควรทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ก่อนทุกครั้ง
  6. แล้วนำก้อนเชื้อที่ถ่ายหัวเชื้อเห็ดลงเรียบร้อยแล้วไปบ่มไว้ในโรงบ่มก้อนเชื้อต่อไป

 

 

วิธีปลูกต้นอ่อนทานตะวัน

  • ขั้นตอนที่ 1 นำเมล็ดแช่น้ำ 4-6 ชม. ระหว่างแช่จะมีฟองอากาศซึ่งเกิดจากน้ำเข้าไปในเมล็ดครับ หลังจากนั้นเทน้ำออก เคล็ดลับ หลังจากได้เมล็ดมา ควรตากแดดจัด 1 วัน ก่อนแช่ เพื่อให้เมล็ดดีดออกจะใบได้ง่ายครับ
  • ขั้นตอนที่ 2 นำเมล็ดบ่มในผ้าขนหนู ประมาณ 18-20 ชม. ทุก ๆ 5 ชม. ให้คนกลับไปกลับมา เมล็ดจะเริ่มงอกเป็นตุ่ม ๆ ดังภาพ แสดงว่าเริ่มเพาะได้แล้ว ให้เรานำดินใส่ถาดที่เตรียมไว้ เคล็ดลับ รากที่งอกออกมาไม่ควรปล่อยให้ยาวมากนะครับ ประมาณ 2-3 มิล ก็ใช้ได้ครับ
  • ขั้นตอนที่ 3 โรยเมล็ดลงดิน โดยไม่ให้หนา หรือบางจนเกินไป เคล็ดลับ อัตราส่วน ถาด 30*60 ซม. ต่อเมล็ด 1.5 ขีด
  • ขั้นตอนที่ 4 โรยดินกลบบาง ๆ และรดน้ำพอชุ่ม เคล็ดลับ ดินที่ได้มาควรร่อนเอากากใบไม้ ขุยมะพร้าวออกก่อน การโรยควรใช้ดินละเอียดครับ
  • ขั้นตอนที่ 5 นำถาดมาซ้อนกันประมาณ 1 คืน หลังจากนั้นให้นำถาดออกมารดน้ำตามปกติ เคล็ดลับ ซ้อนเพื่อให้รากลงดินได้เร็วครับ ถาดที่ซื้อมาควรเป็นถาดแบบเดียวกัน เพื่อสะดวกต่อการซ้อนครับ
  • ขั้นตอนที่ 6 แยกถาดออกไว้ในร่ม รดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เคล็ดลับ หลังจากแยกถาด ควรคุมเรื่องแสงนะครับ เพื่อให้ต้นยืดหาแสง จะทำให้ได้ต้นยาวครับ
  • ขั้นตอนที่ 7 เข้าสู่วันที่ 3 รดน้ำต่อวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น พอประมาณ
  • ขั้นตอนที่ 8 เข้าสู่วันที่ 4 รดน้ำบาง ๆ เพื่อให้ดินหลุดจากใบ สามารถเริ่มเก็บเมล็ดที่ติดใบออกได้ รดน้ำเช้า-เย็นต่อ เคล็ดลับ ถ้าเมล็ดเราตากแดดก่อนเพาะ ถึงตอนนี้เมล็ดจะดีดออกจากใบเอง ทำให้ไม่ต้องเก็บเมล็ดมากครับ
  • ขั้นตอนที่ 9 เข้าสู่วันที่ 5 รดน้ำต่อเช้า-เย็น พอประมาณ เคล็ดลับ ก่อนวันตัด 1-2 วัน ค่อยให้โดนแสง ต้นจะยาวและเขียวสวยครับ
  • ขั้นตอนที่ 10 เข้าสู่วันที่ 6-7 รดน้ำเช้า-เย็นปกติ และนำออกมารับแสงในวันที่จะตัด ต้นจะเริ่มเขียว สามารถตัดได้ในวันที่ 6-7 หรือมากกว่าก็ได้ครับ แล้วแต่ความยาวของต้น เคล็ดลับ ถ้าเริ่มเห็นใบจริงแทรกออกมาจากปลายต้นอ่อน ควรจะตัดได้แล้วครับ

การตัด : ใช้มือรวบโคนต้นเป็นกระจุก นำกรรไกร หรือคัตเตอร์คม ๆ ตัดที่โคนต้น สาเหตุที่ต้องใช้คมมาก ๆ เพื่อป้องกันโคนต้นช้ำครับ ล้างในกะละมัง 2 น้ำ เก็บเศษดิน เศษราก และเมล็ดที่ติดมาออก ผึ่งให้แห้ง พร้อมรับประทาน หรือจะแพ็คใส่ถุงเข้าตู้เย็น โดยมัดปากถุงให้แน่น ไม่ต้องเจาะรู แต่ต้องผึ่งให้สะเด็ดน้ำก่อนนะครับ สามารถเก็บได้ถึง 5-7 วันครับ

 

 

วิธีปลูกกวางตุ้ง

การปลูกแบบหว่านแมล็ดโดยตรง วิธีนี้นิยมใช้ในการปลูกแปลงที่ยกร่อง มีร่องน้ำกว้าง และพื้นที่ควรมีการเตรียมอย่างดี และเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ผักกาดเขียวกวางตุ้งมีขนาดเล็กมาก ดังนั้นก่อนหว่านควรผสมกับทรายเสียก่อน โดยใช้เมล็ดพันธุ์ 1 ส่วนผสมกับทรายสะอาด 3 ส่วน แล้วหว่านให้กระจายทั่วแปลงสม่ำเสมอแล้วหว่านกลบด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหนา ประมาณ 1/2-1 เซนติเมตร หลังจากนั้นคลุมด้วยฟางข้าวบางๆ เพื่อช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นในดิน เสร็จแล้วรดน้ำให้ชุ่มหลังจากงอกได้ประมาณ 20 วัน ควรทำการถอนและจัดให้มีระยะระหว่างต้น 20-25 เซนติเมตร

 

 

วิธีปลูกผักกาดหอม

  1. การเตรียมดิน การปลูกผักกาดหอมหรือผักสลัด สามารถปลูกได้หลายแบบ นิยมปลูกในถุงดินก็ได้ หรือ ปลูกในถาดหลุมก็ได้แล้วแต่จะสะดวก จากนั้นนำดิน ปุ๋ยคอกและขุยมะพร้าว ผสมกันในอัตรา 1:1  จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้ในที่ร่มเป็นเวลา 7 วัน
  2. นำปุ๋ยที่ผสมแล้ว มาใส่ในดินหรือถาดหลุม ให้เต็มแล้วใช้ไม้จิ้มลงกลางหลุมแล้วหยอดเมล็ด ผักกาดหอมลงไป1-2เมล็ด แล้วกลบด้วยดินหรือวัสดุบาง ๆ จากนั้นรดน้ำแล้วนำไปไว้ในที่ร่มรำไร
  3. การรดน้ำ ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
  4. เมล็ดผักกาดหอมจะงอกหลังจากหยอดเมล็ดประมาณ 3-5 วัน
  5. เมื่อครบ 7 วัน หรือมีใบ 3-5 ใบ จากนั้นนำถุงดินไปวางที่แดด เพราะผักกาดหอมเป็นพืชที่ชอบแดด
  6. เมื่อครบ 40-45 ก็สามารถนำมาจำหน่าย หรือ รับประทานได้เลย *คำแนะนำควรรีบตัดผักกาดหอมอย่าปล่อยให้แก่เพราะจะทำให้แข็งและขมไม่น่ารับประทาน

 

วิธีปลูกมะระ

  • ขุดหลุมบนร่องปลูกให้กว้าง และลึกประมาณ 1 ศอก ใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมๆ ละ 1 กระป๋องนมข้น เอาผิวดินใส่ลงไปก้นหลุมก่อนจนหลุมตื้น แล้วจึงนำกล้ามะระลงปลูก กลบดินแต่เบาๆ การปลูกควรทำในตอนเย็น ปลูกเสร็จใช้ฟางคลุม สัก 2-3 วัน รดน้ำให้ชุ่ม หลังจากนั้นรดน้ำเช้าและเย็น ต้นมะระยิ่งโตยิ่งต้องการน้ำมาก การรดน้ำต้องทำอย่างสม่ำเสมอ คอยระวังอย่าให้หญ้าขึ้นรกแปลงด้วย หมั่นถอนหญ้า และพรวนดินกลบโคน จนกว่าต้นมะระจะโตทอดยอดเลื้อยขึ้นค้าง ก็ไม่จำเป็นต้องพรวนอีกต่อไป
  • การทำค้าง ถ้าใช้ไม้ไผ่ต้องนำมาผ่าเป็นซีกเล็ก ๆ กว้างประมาณ 2-3 ซม. ยาวประมาณ 2 เมตร การผ่าไม้ทำให้เสียเวลาและแรงงานมาก แต่ไม้ไผ่และไม้รวกมีความทนทาน ใช้ทำค้างได้นานราว 3 ปี ถ้าใช้ต้นแขมทำค้างเพียงปีเดียวก็ผุพังหมด แต่ราคาถูก ในหนึ่งไร่ใช้ไม้ทำค้างประมาณ 1 หมื่นอัน

 

 

วิธีปลูกต้นหอม

  1. เริ่มจากการไถแปลงขนาดกว้าง 1.5 เมตร ความยาวแล้วแต่ความสะดวกในการรดน้ำ
  2. เมื่อไถเสร็จเราก็เริ่มเขี่ยแปลงโดยใช้คราด ให้ดินสม่ำเสมอกัน
  3. เมื่อแปลงเรียบดีแล้ว ก็ลงมือ ปักพันธ์ หอมลงในดินเลย ก่อนที่เราจะปักลงเราควรแกะกรีบหอมออกก่อน ระยะห่างระหว่างหัวประมาณ 3×3 ซม
  4. เมื่อปักพันธ์หอมเสร็จเราก็นำฟางข้าว หรือ ว่า แกลบ มาคุมแปลง เพื่อดูซับความชื่น ในแปลงผัก
  5. หลังจากนั้นเราก็รดน้ำ เช้า-เย็น
  6. เมื่อผักเริ่มงอกและลำต้นยาว ประมาณ 3 ซม ระยะนี้จะใช้เวลา 10 วัน ให้เราเริ่มใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ปุ๋ย ชีวภาพ หรือ เคมีก็ได้ ถ้าเป็นเคมี แนะนำ สูตร 16-8-8 และก็ฉีดฮอร์โมน หรือ EM
  7. ควรดูแลวัชพืช ช่วงนี้ด้วย
  8. เมื่อผ่านไป 20 วัน เราก็เริ่มใส่ปุ๋ย ครั้งที่ 2 และก็ทำเหมือนกันกับ ขั้นตอนที่ 6
  9. เมื่อผักมีอายุ 30-32 วัน เราก็เริ่มเก็บได้

 

วิธีปลูกขึ้นฉ่าย

วิธีการปลูกขึ้นฉ่ายนั้นสามารถกระทำได้ 2 วิธี ด้วยกัน คือ (1) เพาะให้เมล็ดงอกก่อน เมื่อกล้าสูงประมาณ 2-3 นิ้ว จึงทำการย้ายปลูก และ (2) หว่านเมล็ดในแปลงปลูกเลย

  1. หากปลูกแบบวิธีแรก ต้องเตรียมดินแปลงเพาะให้ละเอียดที่สุด เนื่องจากเมล็ดพันธุ์มีขนาดเล็กมาก โดยเฉลี่ยน้ำหนักเมล็ดพันธุ์ 1 กรัม จะมีจำนวนเมล็ดประมาณ 2,000-2,200 เมล็ดเลยทีเดียว หลังจากเตรียมดินแปลงเพาะให้ละเอียดดีแล้ว ให้ใช้เมล็ดพันธุ์ 1 ช้อนชาผสมกับทราย 1 ถัง แล้วคลุกให้เข้ากัน หว่านลงในแปลงเพาะขนาดเนื้อที่ 1 ตารางเมตร หลังจากหว่านแล้วให้ใช้ฟางแห้งคลุมบางๆ แล้วรดน้ำด้วยฝักบัวฝอยวันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน และเย็น เพื่อให้ดินชุ่มชื้นแต่อย่าให้น้ำขัง เมื่อผ่านไปประมาณ 7-10 วัน เมล็ดขึ้นฉ่ายจะงอกเป็นฝอยๆ ในตอนนี้ควรใส่ปุ๋ยสตาร์ทเตอร์รดเพื่อเร่งให้กล้าแข็งแรง เมื่อกล้ามีอายุได้ 6-7 สัปดาห์ จะมีลำต้นสูง 3-4 นิ้ว ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมกับการทำการย้ายกล้าเพื่อลงแปลงปลูก
  2. สำหรับการปลูกแบบที่สอง ให้เตรียมแปลงปลูกเช่นเดียวกับแปลงเพาะ แต่ในการหว่านเมล็ดพันธุ์ให้ลดจำนวนลงให้น้อยกว่าการปลูกแบบเพาะกล้าเพื่อให้ง่ายต่อการทำการถอนแยก ซึ่งในการปลูกแบบนี้จะต้องทำการถอนแยก ซึ่งให้ทำการถอนแยกโดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ 2-3 นิ้ว ในการปลูกขึ้นฉ่ายนั้น หากอยากให้ลำต้นมีสีขาว ก็ควรหุ้มด้วยฟางหรือดิน หรือตีไม้เป็นกรอบรอบๆ ต้น ให้แต่ละส่วนของใบโผล่ขึ้นมา 1 ส่วน 4 ของความสูงของลำต้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนล่างโดนแสง การบังแสงนี้จะทำประมาณ 3 สัปดาห์ จึงเอาออก ก็จะทำให้ได้ก้านใบขาว กรอบ หากไม่ทำการบังแสง ก้านใบจะมีสีเขียวจัด