คนรุ่นใหม่หลายท่านอยากผันตัวเป็นเกษตรกร ต้องการชีวิตสโลวไลฟ์ใช้ชีวิตพออยู่พอกินพอเพียง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีแค่คิดตามก็มีความสุขแล้วใช่ไหมคะ แต่อย่ามองเพียงด้านเดียวเพราะถ้าคุณยังไม่อ่านบทความนี้ค่ะ

1. ทำเกษตรโดย ขาดจุดมุ่งหมาย

หากการที่มีที่ดินและมีทุน แล้วคิดจะลงมาทำเกษตรเลย แน่นอนว่ายังไม่เพียงพอ อย่างแรกต้องถาม จะปลูกอะไร ปลูกอย่างไร และ ปลูกแล้วมีตลาดหรือไม่ ท่านลองถามตัวเองถ้ายังไม่รู้เรื่องพื้นฐานและไม่มีการกำหนดเป้าหมายชัดเจน อาจจะต้องเจอปัญหาต่างๆที่จะตามมาในอนาคตอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น สิ่งแรกที่ควรทำคือ “กำหนดเป้าหมาย”

2. ชอบเกษตรจริงๆหรือแค่อยากลอง

การทำเพื่อทดลองทำดู นี่ไม่ถือเป็นสิ่งที่ดีนะคะ เนื่องจากการทำเกษตรนั้นคุณจะต้องทุ่มเทและเสียสละอะไรหลายๆอย่าง เช่น เงิน เวลา กำลังแรงกายแรงใจ จะทำเกษตรควรเริ่มจากมีใจรักจริงๆ ยอมตากแดดนานๆ ยอมจับจอมจับเสียม หรือแม้แต่รายได้ในช่วงแรกเข้ามาอาจทำให้หลายคนท้อไปเลยก็มี เพราะฉะนั้นอย่างที่สองที่ควรมีคือ “ต้องมีใจรัก”

3. รู้ทฤษฎีเยอะแต่ไม่เคยลงมือทำ

ทฤษฎีที่ได้ศึกษาและคิดว่าถ่องแท้แล้วอาจจะไม่ได้ผลเมื่อได้ทำการลงมือทำอย่างจริงจัง ดังนั้นถึงคุณจะสืบค้นหาข้อมูลเก่งอย่างไรแต่ถ้าหากยังไม่เคยลงมือ คุณจะไม่มีทางรู้ผลลัพธ์ที่แท้จริงและไม่มีทางเก่งขึ้นแน่นอน เพราะเมื่อลงมือทำจริงจะมีหลายๆอย่าประเดประดังเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น สภาพแวดล้อม สภาพภูมิอากาศ เป็นต้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่สามที่ควรรู้คือ “อย่าเชื่อทฤษฎีมาก”

บทความนี้ไม่ได้กีดกันคนรุ่นใหม่หรือคนที่อยากเริ่มทำเกษตรนะคะ เพียงแต่สิ่งใดเมื่อมีข้อดีแล้วก็ย่อมมีข้อเสียตามมา จึงอยากให้ทุกท่านตระหนักรู้และเตรียมร่างกายเตรียมใจให้พร้อมก่อนลงสนานมจริงค่ะ

ขอบคุณข้อมูล  me-panya