ในอดีต การเจริญเติบโตของพืชนั้นจะอาศัยแสงแดดจากดวงอาทิตย์เท่านั้น ทำให้ผลผลิตที่จะได้ออกมาของต้นพืช มีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน เพราะได้ปริมาณแสงที่ไม่เท่ากัน อีกทั้งแสงยังเป็นตัวการสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์แสง ซึ่งเป็นกระบวนการในการผลิตแป้งและน้ำตาลให้แก่พืช

 

แล้วถ้าหากพื้นที่ที่มีแดดน้อย หรือปริมาณแสงแดดที่ไม่เพียงพอล่ะ เกษตรกรควรทำอย่างไร??

 

ในปัจจุบันนั้นได้มีการคิดค้นนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการให้แสงแก่พืช โดยที่พืชไม่จำเป็นต้องโดนแสงแดด ซึ่งนวัตกรรมนั้นคือ การปลูกพืชด้วยวิธีการใช้แสง LED โดยแสง LED ที่เหมาะกับพืชนั้นมีเพียง 2 ความยาวคลื่น คือ

  1. แสงช่วงที่มีความยาวคลื่นระหว่าง 400-800 นาโนเมตร คือ แสงสีม่วง แสงสีน้ำเงิน และแสงสีเขียว
  2. แสงช่วงความยาวคลื่นระหว่าง 600-800 นาโนเมตร คือแสงสีแดง

ซึ่งแสงสีแดงเป็นแสงสีที่พืชสามารถดูดกลืนได้ไวที่สุด และเป็นแสงสีที่มีผลต่อการออกดอกของพืชด้วย

DIY LED PLANT GROW LIGHT

วัสดุที่ต้องเตรียม

  1. แผงไฟ  LED สีน้ำเงิน-สีแดง
  2. อะแดปเตอร์แปลงไฟ 12v
  3. สายไฟ

วิธีการทำ

  1. ใช้หลอดสีแดงกับสีน้ำเงินในอัตราส่วน 4:1 คือแดง 4 หลอด น้ำเงิน 1 หลอด คิดเป็นเปอร์เซนต์ก็ แดง 80% น้ำเงิน 20%ใครจะแซมสีขาวซัก 1 % ก็ได้ จะได้ใกล้เคียงแสงแดดมากที่สุด
  2. แบบที่ทำอันนี้จะแยกเป็น Module ต่ออนุกรม กัน 5 ตัว แดง 4 น้ำเงิน โดยเราอาจจะสลับตำแหน่งน้ำเงินไปไว้ตรงไหนก็โดยเพื่อต้องการให้กระจายอย่างทั่วถึง ในกรณีที่เรานำ Module หลายๆอันมาต่อขนานพ่วงกัน โดย Module แต่ละอันก็สามารถต่อไฟตรง 12 Volts ได้เลยทันทีให้คำนึงถึงกระแสที่แหล่งจ่ายไฟจะสามารถป้อนให้แก่ตัว LED ทั้งหมดด้วยอันนี้ง่ายๆไม่ซับซ้อน แต่ต้องเข้าใจหลักการว่าทำไปทำไม ทำไปเพื่อะไรทำไมต้องใช้ spectrum สีแดง กับสีน้ำเงิน เป็นหลัก

แล้วการทำแบบนี้ดีกว่าการใช้แสงปกติอย่างไร

วิธีการแบบนี้ ดีกว่ามาก เพราะ การให้แสงที่เป็นประโยชน์แก่พืชโดยตรง โดยที่พืชสามารถนำไปใช้สังเคราะห์แสงเพื่อการเจริญเติบโตได้โดยทันที ทำให้พืชสามารถเจริญเติบโตได้มากกว่าปกติ อีกทั้งยังสามารถลดการใช้ระยะเวลาในการเจริญเติบโตของพืชลง เพราะสามารถเปิดไฟให้แสงแก่พืชได้ทั้งวันทั้งคืน

 

 

แหล่งที่มา

ขอขอบคุณ : แสงแดดเทียม