มะขามป้อม เป็นต้นกำเนิดมาจากอินเดีย โดยเป็นสมุนไพรที่ชาวอินเดียใช้มาอย่างยาวนาน ชาวอินเดียเรียกสมุนไพรหรือผลไม้ชนิดนี้ว่า Amalaka แปลว่า “พยาบาล” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามะขามป้อมนั้นมีสรรพคุณมากมายมหาศาล เป็นที่นิยมปลูกกันมากในหลายประเทศ อีกทั้งก็เป็นผลไม้พื้นบ้านของไทยอีกด้วย

      มะขามป้อมมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระเพราะมีวิตามินซีที่สูงมาก มักจะใช้เป็นยาเพื่อเพิ่มสุขภาพผิว เส้นผม ช่วยสร้างภูมิคุ้มของร่างกาย และเป็นยารักษาโรคบางชนิดได้ด้วย เพราะมะข้ามป้อมอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่ประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร  ทั้งนี้วิตามินซีในน้ำที่คั้นจากผลของมะข้ามป้อมนั้นมีมากกว่าน้ำส้มคั้นประมาณ 20 เท่า ซึ่งมะขามป้อมลูกเล็กๆ 1 ผล จะมีปริมาณวิตามินซี เท่ากับส้ม 1-2 ผลเลยทีเดียว และในผลมะขามป้อมมีสารพวกแทนนินและโพลี่ฟีนอล ที่จะช่วยป้องกันการเกิดออกซิไดซ์ของวิตามินซี จึงทำให้วิตามินซีรักษาสภาพคงไว้ได้นาน

     มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีสีเขียวอ่อน บางครั้งก็มีเนื้อยางและโปร่งแสง เป็นเส้น มีรสชาติค่อนข้างฝาด เติบโตบนพุ่มไม้เล็ก ๆ ที่มีหนาม  ปัจจุบันมีสายพันธุ์ประมาณ 2,000 สายพันธุ์ มีสายพันธุ์เดียวกันกับลูกเกด และมะขามป้อมมะขามป้อมชอบแสงแดด ทนความแห้งแล้งได้ดี ปลูกได้ในดินทุกชนิด ชอบดินร่วน ดินร่วนปนทราย จะเติบโตได้ดี ในดินที่มีความชุ่มชื้น ต้องมีการให้น้ำเพียงพอ ระบายน้ำดี ในการปลูกช่วงแรกต้องรดน้ำทุกวัน เมื่อมะขามป้อมเติบโตขึ้น ก็ให้ลดการให้น้ำได้ ปลูกในฤดูฝนจะดี ควรตัดแต่งใบและกิ่งบ้าง เพื่อให้ต้นไม่สูงเกินไป

     การปลูกทำได้ด้วยวิธี การเพาะเมล็ด และการตอนกิ่ง
     ในการเพาะเมล็ด นำมาเพาะใส่ลงในถุงพลาสติกเพาะชำ รดน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่แดดร่มๆ ใช้เวลาเพาะประมาณ 6 เดือน แล้วนำมาปลูกลงในแปลง โดยระยะเวลาที่เริ่มให้ผลผลิตใช้ 
เวลาประมาณ 3-5 ปี ให้ผลผลิต 

     ในการตอนกิ่ง ใช้กิ่งที่สมบูรณ์แข็งแรง แล้วนำมาปลูกลงในแปลง ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 6×8 เมตร โดยระยะเวลาที่เริ่มให้ผลผลิตใช้ เวลาประมาณ 2- 3 ปี ให้ผลผลิต

 

ประโยชน์ของ “มะขามป้อม”

  1. ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย โดยจะช่วยในการเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาวในร่างกายที่จะโจมตี กำจัดสารพิษและสารแปลกปลอมที่จะเข้าสู่ร่างกาย 
  2. ควบคุมเบาหวาน โดยจะมีโครเมียม ซึ่งมีประโยชน์ในการรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวานและทำให้ร่างกายผู้ป่วยเบาหวานเกิดความสมดุล
  3. ใช้ในการบำรุงและรักษาเส้นผมให้มีสุขภาพแข็งแรง ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของเส้นผมและช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับราก และให้ผมนุ่มลื่น เพิ่มความมันวาว เพื่อลดโอกาสผมร่วงและศีรษะล้าน 
  4. ต่อต้านริ้วรอย ช่วยบำรุงสุขภาพผิวพรรณ มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เกี่ยวข้องกับการเกิดริ้วรอย
  5. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา มีวิตามินเอที่จะช่วยบำรุงสายตา และลดความเสี่ยงการเกิดต้อกระจก
  6. ช่วยในการเผาผลาญ โดยโปรตีนเป็นส่วนสำคัญของกิจกรรมการเผาผลาญของร่างกาย
  7. เพิ่มความอยากอาหาร 
  8. ตัวช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของกระดูกฟัน เล็บ และผม
  9. ต้านการเกิดโรคมะเร็ง มีฤทธิ์ในการต่อต้านเซลล์มะเร็ง และการยับยั้งการเกิดนื้องอก
  10. ดูแลสุขภาพตับ มะขามป้อมช่วยในการกำจัดอนุมูลอิสระ และช่วยล้างสารพิษในร่างกาย  
  11. ทำหน้าที่เป็นยาขับปัสสาวะ  เนื่องจากภายในตัวมะขามป้อมมีปริมาณน้ำที่สูง ดังนั้นการปัสสาวะจึงมีความจำเป็นต่อการบำรุงรักษาไตให้แข็งแรงและป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะและมดลูก
  12. บรรเทาอาการท้องร่วงและโรคบิด มีคุณสมบัติเป็นยาระบาย ช่วยล้างสารพิษหรือสารอันตรายที่ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายหรือเจ็บป่วย และทำให้ลดความรู้สึกแสบร้อนและลดความรู้สึกไม่สบายที่มักเกิดระหว่างท้องเสีย
  13. ช่วยในเรื่องการย่อยอาหาร เนื่องจากมีเส้นใยสูงมากช่วยลดโอกาสในการท้องผูก

      ทั้ิงนี้ประโยชน์ของของมะขามป้อมยังมีอีกมากมายมหาศาล เหมาะอย่างมากที่จะปลูกเพื่อรับประทานในครัวเรือน หรือปลูกเพื่อสร้างรายได้ ทั้งนี้ยังขายเป็นผลสด หรือทำการแปรรูป ก็น่าสนใจไม่น้อย

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง 
      ขอขอบคุณ : winnews / organicfacts / foodfacts / thai-thaifood