“ฝรั่งไส้แดงชมพูพันธุ์ทิพย์” เป็นฝรั่งสายพันธุ์ที่มีไส้เป็นสีแดง มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมจากประเทศไต้หวัน  ฝรั่งที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคเนื่องจาก ฝรั่งไส้แดงชมพูพันธุ์ทิพย์มีรสชาติที่ หวานกรอบ มีกลิ่นหอม รสชาติถูกปาก และอีกทั้งยังนิยมในเกษตรกรที่เริ่มมีการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ปลูกฝรั่งไส้แดงชมพูพันธุ์ทิพย์เพื่อสร้างรายได้  เนื่องจากกำลังเป็นที่นิยมในผู้บริโภค ขายได้ราคาดี และปลูกได้ง่าย ทนแล้ง อีกทั้งยัง สามารถปลูกและเจริญเติบโตได้ดีมีดอกติดผลดกเป็นธรรมชาติในดินทุกสภาพพื้นที่ของประเทศไทย

ฝรั่งไส้แดงชมพูพันธุ์ทิพย์ มีชื่อวิทยาศาสตร์และมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับต้นฝรั่งทั่วไปเกือบทุกอย่างคือ เป็นไม้ยืนต้น แต่ต้นของ “ฝรั่งไส้แดงชมพูพันธุ์ทิพย์” จะสูงประมาณ 3-5 เมตรเท่านั้น ใบเดี่ยวรูปรีแกมรูปขอบขนาน ใบจะมีขนาดใหญ่กว่าใบของฝรั่งทั่วไปอย่างชัดเจน ดอก ออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ ดอกเป็นสีขาวนวล ใจกลางดอกมีเกสรตัวผู้หลายอัน “ผล” เป็นรูปกลมรีหรือรูปหยดนํ้า ปลายผลจะแหลมและเรียวกว่าก้นผล ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อผลแก่จัดหรือผลสุกสีของเปลือกผลจะเป็นสีเขียวอ่อนออกสีนวลๆ เนื้อในสุกเป็นสีแดงจนถึงเปลือกผลด้านใน เป็นสีแดงมีเมล็ดมาก มีกลิ่นหอมรสชาติหวานเนื้อสุกแน่นกรอบน่ารับประทาน มีดอกและติดผลดกโดยธรรมชาติของสายพันธุ์ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด ปลูกได้ในดินทุกพื้นที่ของประเทศไทย เติบโตเร็วและให้ผลผลิตสูง ปลูกลงบ่อซีเมนต์มีดอกติดผลดกได้เหมือนกับปลูกลงดินทั่วไป หากปลูกลงดินระยะห่าง 3 คูณ 3 เมตร บำรุงปุ๋ยสูตร 16-16-16 สลับกับปุ๋ยสูตร 8-24-24 ประมาณ 2-3 เดือนครั้ง จะทำให้ต้นแข็งแรง มีดอกและติดผลดกเก็บผลขายได้ราคาดี

        ที่สำคัญสามารถปลูกได้ในดินทุกชนิด แต่หากเป็นดินร่วนปนทรายจะเจริญเติบโตได้ดี ควรเริ่มปลูกในฤดูฝน ปลูกได้หลายวิธี โดยการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง ติดตา เสียบกิ่ง แต่การทาบกิ่ง ดูจะเป็นที่นิยมใช้มากสำหรับเกษตรกรของไทย เพราะจะได้ผลผลิตเร็วกว่าวิธีการอื่น ๆ ระยะห่างระหว่างต้นในการปลูกอยู่ที่ประมาณ 2×2 เมตร   ชอบอากาศร้อน แสงแดดเพียงพอ และต้องให้น้ำเพียงพอ พื้นที่ระบายน้ำดี ไม่แฉะเกินไป ต้องรดน้ำเช้าเย็น เมื่อฝรั่งโตขึ้นก็เว้นการให้น้ำได้ ในช่วงฤดูแล้งควรให้น้ำด้วยระบบท่อเพื่อประหยัดแรงงาน  ระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี หลังปลูกลงแปลง จะออกผลให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตไปขายได้

“ฝรั่งไส้แดงชมพูพันธุ์ทิพย์” เป็นพืชที่มีประโยชน์ มีวิตามินมากมายอีกทั้งในทางสมุนไพรเป็นผลไม้ที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย แก้กลิ่นปาก บำรุงฟัน บำรุงกระดูก ช่วยป้องกันหวัด และมีอนุมูลอิสระ อีกด้วย จึงเป็นพืชที่น่าสนใจและแนะนำ ในยุคที่เทรนรักสุขภาพกำลังมาแรง

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง 
      ขอขอบคุณ : ไทยรัฐ / เดลินิวส์