ช่วงนี้ประเทศไทยได้รับอิทธิพลฝนฟ้ากระหน่ำจากมรสุมที่พัดผ่านมาเป็นประจำทุกปี แต่ปีนี้ปริมาณน้ำฝนอาจคาดการณ์ได้ยากกว่าปกติสักหน่อยจึงทำให้มีน้ำท่วมหลายจังหวัดในประเทศ

แต่เหล่าคนเมืองก็ใช่ว่าจะรอดพ้นจากน้ำท่วมเช่นกัน เพราะกรุงเทพมหานครนั้นก็น้ำท่วมตามตรอกซอกซอยเป็นปกติอยู่แล้วในยามฝนตกหนักแบบนี้ ดังนั้นก็อาจจะมีบางบ้านที่ปลูกผักหรือ
มีแปลงผักหน้าบ้านแล้วถูกน้ำท่วม

วันนี้เราจะมาแนะนำสำหรับเกษตรกรที่รักการปลูกผักในเมืองกันนะคะ

เราได้ชุดความรู้นี้จาก อ.เกศศิรินทร์ แสงมณี หรือ อ.เติ้ล ผู้มากประสบการณ์ด้านการทำเกษตรในเมือง และที่ปรึกษาประจำโครงการของสวนผักคนเมือง

โดย อ.เติ้ล บอกว่าก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า ถ้าน้ำแค่ท่วมไม่กี่ชั่วโมงแล้วระดับน้ำลด และท่วมไม่สูงมาก ผักของเราก็จะไม่เป็นอะไรมาก

แต่ถ้าน้ำท่วมขังอยู่บริเวณแปลงผักระยะเวลาตั้งแต่ 2-3 วันขึ้นไป โดยระดับน้ำท่วมสูงถึงโคนต้น เมื่อน้ำรดแล้วผักหรือต้นไม้ของเราใบจะเริ่มเหลือง และใบจะค่อย ๆ ร่วงจนหมด และผักก็จะตายในที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักใบ เมื่อน้ำท่วมถึงใบแล้ว ผักจะเน่าตายภายใน 24 ชั่วโมง โดยเราไม่สามารถทำให้ผักที่โดนน้ำท่วมกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมได้ เราจึงขอแนะนำให้บำรุงดินที่ถูกน้ำท่วมแล้วปลูกใหม่

แต่ก่อนที่จะเราบำรุงดินที่ถูกน้ำท่วมเราต้องรอให้ดินหายชื้นก่อน เพราะเมื่อดินชื้นและเปียก
ดินจะเกาะกันเหนียวแน่นจนไม่สามารถปลูกผักได้ เราจึงต้องหมักดินก่อนด้วยปุ๋ยหมักหรือขี้วัวให้ดินมันกลับมาร่วนอีกครั้ง และยังเป็นการเติมสารอาหาร อินทรียวัตถุในดินแทนสารอาหารเดิมที่ถูกน้ำพัดให้ลอยหายไปตามน้ำ

หรือถ้าแปลงผักของใครที่อาจจะโดนน้ำท่วมอยู่ตลอด ก็สามารถรักษาธาตุอาหารในแปลงผักได้ด้วยการสร้างขอบหรือกรอบกั้นดินตอนที่เริ่มขึ้นแปลง เมื่อโดนน้ำท่วม ดินก็จะไหลอยู่ในกรอบที่เรากั้นไว้ทำให้สารอาหารไม่ไหลออกจากแปลง เราก็ไม่จำเป็นต้องบำรุงดินมากนัก แค่รอให้ดินหายชื้นและเหนียวก่อน เราจึงเติมปุ๋ยหมักเพียงเล็กน้อย และหมักดินก่อนลงกล้าผัก

.

ภาพแปลงผักจากโครงการสวนผักชุมชนหมู่บ้านอรุณนิเวศน์
ภาพแปลงผักจากโครงการผักปันสุข วัดเซเวียร์

หรือถ้าใครโดนน้ำท่วมแปลงผักอยู่ตลอด อ.เติ้ลก็แนะนำให้ทำเป็นแปลงผักยกพื้น จะได้หนีน้ำท่วมได้ และง่ายต่อการดูแลผัก เหมือนดั่งที่กลุ่มผักปันสุข วัดเซเวียร์ ที่ปลูกผักอยู่ข้างกำแพงวัดซึ่งเป็นบริเวณที่ติดกับคลอง ทำให้มีน้ำซึมเข้ามาในสวนอยู่เสมอ ช่วงไหนที่ฝนตกหนักน้ำจะท่วมแปลงผักเป็นประจำ และด้วยดินที่มีน้ำซึมเข้ามาอยู่ตลอดเวลาทำให้หญ้าและผักบุ้งที่เป็นวัชพืชต่อผักของเราขึ้นอยู่เต็มพื้นที่อยู่ตลอด จนผู้ที่ดูแลสวนผักไม่สามารถกำจัดได้ทันทั้งหมด ทางกลุ่มจึงเปลี่ยนรูปแบบของแปลงในสวนให้เป็นแบบยกพื้นผสมกับแปลงบนพื้นดิน ถ้าใครประสบปัญหาคล้าย ๆ กัน ก็ลองดูเทคนิคเหล่านี้ได้นะคะ

ภาพแปลงผักจากโครงการผักปันสุข วัดเซเวียร์
ภาพแปลงผักจากโครงการผักปันสุข วัดเซเวียร์