❝ Plant factory ❞ หรือ ❝ โรงงาน (ผลิต) พืช ❞
➙ เป็นระบบการปลูกพืชที่ควบคุมสภาพแวดล้อม เช่น แสง อุณหภูมิ ความชื้น คาร์บอนไดออกไซด์ และสารอาหาร เพื่อให้สามารถผลิตพืชได้ปริมาณมาก ปลูกได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่มีฤดูกาล มีคุณภาพ สะอาดและปลอดภัยแน่นอน
![]()
การปลูกด้วยระบบนี้ เป็นการต่อยอด มาจากการปลูกแบบ Greenhouse ที่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ระดับนึง แต่เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป สภาพดินเสื่อมโทรม มีการใช้สารเคมีในการเพาะปลูกมาก สภาพเมืองขยายตัว แรงงานขาดแคลน จึงต้องพัฒนาให้ปลูกพืชให้ได้ปริมาณมากๆ ในปัจจัยที่มีจำกัด ซึ่งเริ่มจะเป็น Global Trend
ประเทศที่มีปลูกด้วยระบบนี้จำนวนมากได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น ส่วนประเทศอื่นๆ ในโลกก็เริ่มพัฒนาระบบนี้มาเช่นกัน ทั้งยุโรป อเมริกา สิงคโปร์ ด้วยการพัฒนาที่ไม่หยุด ปัจจุบันสามารถผลิตผักได้มากกว่าปลูกบนดินถึง 100-300 เท่า แต่ใช้พื้นที่เพาะปลูกไม่เกิน 10% ใช้น้ำเพียง 1% ใช้แรงงานเพียง 1% ที่สำคัญผักที่ได้ไม่มียาฆ่าแมลง/กำจัดศัตรูพืช
จากเดิมที่เราทราบว่าประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ เป็นเกาะ ไม่เหมาะการทำกสิกรรมมากนัก ต้องนำเข้าสินค้าเกษตรเป็นหลัก ต่อไปประเทศเหล่านี้อาจจะส่งออกสินค้าเกษตรก็เป็นได้
![]()
★ Plant factory แยกเป็น 2 ประเภทหลักๆ
- ระบบปิดแบบใช้แสงจากดวงอาทิตย์ หรือแสงประดิษฐ์
- ระบบผสมผสาน (Hybrid) เช่น ระบบใช้แสงประดิษฐ์ร่วมกับแสงจากดวงอาทิตย์ หรือ ระบบไม่ปิดสมบูรณ์มีการถ่ายเทอากาศจากภายนอก เป็นต้น
![]()
★ ข้อดีและข้อจำกัด ของโรงงาน (ผลิต) พืช
ข้อดี
- สามารถผลิตสนองตลาดได้ โดยไม่ได้รับผลกระทบจากฤดูกาลและภูมิอากาศ ทำให้สามารถสนองตลาดได้อย่างมีเสถียรภาพ(ตรงเวลา ตามจำนวน คุณภาพสม่ำเสมอ ราคาคงที่)
- ไม่ต้องเลือกพื้นดินที่ใช้ในการเพาะปลูก สามารถทำการผลิตในทุกพื้นที่ของประเทศ ในประเทศญี่ปุ่นมีกรณีการใช้อาคารโรงเรียนที่ปิดร้างมาใช้ทำการผลิตด้วย
- มีผลผลิตสูงต่อหน่วยพื้นที่ดินที่ใช้ เพราะสามารถทำการผลิตโดยซ้อนๆ กันหลายชั้นในแนวดิ่ง
- การควบคุมน้ำที่ป้อนสารอาหาร ช่วยทำให้รสชาติปรับดีขึ้น การควบคุมแสงสว่างในการเติบโต ทำให้สารอาหารเพิ่มพูนขึ้นสามารถลดปริมาณการใช้ยาฆ่าแมลง และยาปราบศัตรูพืช
- ทำให้การทำงาน และปริมาณแรงงาน สามารถกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ สร้างเงื่อนไขการทำงานที่สะดวกสะบายในญี่ปุ่น เป็นประโยชน์ในการหาแรงงาน และลดปริมาณการใช้แรงได้ จุดนี้เป็นประโยชน์ในการหาแรงงาน และลดปริมาณการใช้แรงได้ จุดนี้เป็นประโยชน์ต่อประชากรญี่ปุ่นที่มีสูงวัยเพิ่มขึ้น
- สร้างโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ สามารถร่วมลงทุนในธุรกิจนี้ได้ ทำให้โอกาสการขยายตัวมีสูง
ข้อจำกัด
- การลงทุนเบื้องต้นในอุปกรณ์และเครื่องจักรสูง ขณะเดียวกันต้นทุนดำเนินการก็ยังสูงด้วย
- จากข้อจำกัดข้างต้น ทำให้ผู้ผลิตจำเป็นต้องมีแหล่งรับซื้อที่แน่นอน และกำหนดราคาซื้อที่ชัดเจน
- ชนิดของพืชที่สามารถปลูกได้โดยวิธีนี้ยังมีจำกัด เพราะยังต้องพัฒนาเทคนิค โดยทั่วไปใช้ในการปลูกผักสลัด (lettuce) มะเขือเทศ และสตอเบอรี่
- การควบคุมสภาวะแวดล้อมทำได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะกรณีของโรงงานประเภทที่ใช้แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ผสมผสานกับแสงสว่างประดิษฐ์ และโดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน
- ยังมีข้อจำกัดด้านบุคลากร ที่มีความรู้ทางเทคนิคอย่างเพียงพอเกี่ยวกับโรงงานประเภทนี้
Related posts